สตาร์ทอัพ จับธุรกิจยุคใหม่ให้อยู่หมัด
กระแสธุรกิจเกิดใหม่ หรืออย่างที่เรียกกันว่า “สตาร์ทอัพ” (Startup) ซึ่งเป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในแวดวงการทำธุรกิจยุคดิจิทัลแบบนี้ แต่การจะเป็น สตาร์ทอัพ ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น มีองค์ประกอบใดบ้างเราลองมาดูกัน
จับเทรนด์ธุรกิจ ต้องฟิตไอเดีย
- สตาร์ทอัพ คือ ผู้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีไอเดีย หรือ นวัตกรรม(Innovation)มาเป็นจุดขายของธุรกิจนั้นๆ และสามารถขยายกิจการไปได้ไกลถึงในตลาดต่างประเทศด้วยแพลตฟอร์มของธุรกิจของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่มักนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยเหลือในธุรกิจ ซึ่งก็ถือว่าตรงกับพฤติกรรม รูปแบบการใช้ชีวิต หรือ ไลฟ์ไสตล์ ของผู้คนในปัจจุบัน ซึ่งจะแตกต่างไปจากธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วไป ที่สนใจจะมีกิจการเป็นของตัวเองก็สามารถเข้ามาทำได้ทันที หากมีความพร้อมทั้งด้าน คน ทุน การผลิต และการตลาด เช่น หากอยากจะเปิดร้านขายสินค้า บริการ โรงงานผลิตสินค้าที่มีขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก เมื่อพร้อมปุ๊ปก็ลงมือทำได้เลย
- การจะเป็น สตาร์ทอัพ นั้น ก่อนอื่นเลยผู้ที่จะเข้ามาในธุรกิจใหม่นี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมองเทรนด์ หรือ ทิศทางของธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือ มีความเป็นไปได้ในอนาคต เป็นธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ หรือ แก้ปัญหาความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
- สำหรับ สตาร์ทอัพในยุคแรกๆ ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี อย่าง เฟซบุ๊ก (Facebook) หรือ ยูทูป (Youtube) โดยผู้ก่อตั้งธุรกิจต่างเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เข้ามาเขื่อมต่อสังคมออนไลน์ของผู้คนทั่วโลกมาไว้บนเครือข่ายเดียวกัน และหาวิธีสร้างรายได้เข้ามาจากจำนวนผู้ใช้บริการได้อย่างมากมากมหาศาลในปัจจุบัน หรือ ธุรกิจบริการแบ่งปันที่พักอย่าง AIRBNB บริการรถรับส่ง Uber ที่อาศัยแนวคิด “แชร์ริง” ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มาสร้างเป็นเครือข่ายทางธุรกิจเพื่อให้บริการในสิ่งที่ผู้คนมีความต้องการในเชิงลึก และแบ่งปันรายได้ที่เกิดขึ้น ระหว่างเจ้าของแพล็ตฟอร์มซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจ และ ผู้ที่นำสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้บริการเพื่อทำตลาดร่วมกัน
จากความสำเร็จของตัวอย่างธุรกิจที่กล่าวข้างต้นนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากการวางแผนธุรกิจที่ชัดเจน และเป็นไปตามขั้นตอน ที่ล้วนมาจากจากวิสัยทัศน์ของสตาร์ทอัพ ที่มองเห็นเทรนด์ก่อนใคร
สตาร์ทอัพโตแล้ว ระดมทุนที่ไหนก็ได้
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น สตาร์ทอัพ ถือเป็นธุรกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดด มีจุดเด่นด้านไอเดีย และการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานการทำธุรกิจ ซึ่งจะเหมาะสมกับแนวคิดและการทำงานของคนรุ่นใหม่ ที่สนใจความท้าทาย และ มีความคล่องตัวสูง ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้มักเป็นเป็นที่สนใจของธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคง และต้องการการขยายพอร์ทธุรกิจใหม่ๆ ก็มักจะเข้าหากลุ่มสตาร์ทอัพ เพื่อเข้าร่วมลงทุน หรือ เข้าซื้อกิจการนั้นๆ ไปในที่สุด การระดมทุนของสตาร์ทอัพนั้นมีหลากหลายรูปแบบหรือระดับ ซึ่งเหมาะสมกับสตาร์ทอัพในแต่ละระยะ (Stage) ของการพัฒนาธุรกิจ
- เริ่มกันตั้งแต่ ระยะที่หนึ่ง Problem Solution Fit ช่วงนำไอเดียธุรกิจมาแก้ไขปัญหา หรือ pain point ของผู้บริโภค ก่อนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ระยะที่สอง Product Market Fit การทดลองทำตลาด และรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่แท้จริง เพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการในลำดับถัดไป และสุดท้ายระยะที่สาม Business Market Fit ที่เมื่อสตาร์ทอัพ มาถึงจุดนี้ได้แล้ว แน่นอนว่า ย่อมเป็นที่สนใจของเหล่านักลงทุนประเภทต่างๆ แล้วพอสมควร จากนั้นเจ้าของธุรกิจสตาร์ทอัพก็จำเป็นต้องแต่งตัวธุรกิจให้ดูดีน่าเชื่อถือ หรือ น่าสนใจ เพื่อเตรียมนำธุรกิจเข้าไปขอระดมทุนจากแหล่งทุนประเภทต่างๆ ให้ได้ในที่สุด
- ทั้งนี้การเข้าไประดมทุนของสตาร์ทอัพนั้น ยังมีข้อเด่นที่แตกต่างไปจากเอสเอ็มอีทั่วไปอีกด้วย คือ สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ทั้งในและต่างประเทศ หากแพลตฟอร์มทางธุรกิจนั้นเจ๋ง และ แผนธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ หรือมีความเป็นไปได้ในการขยายตลาดในระดับสากล
เครื่องมือช่วยเหลือ
ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณ
ในทุกธุรกรรมทางการเงิน
เครื่องมือช่วยเหลือ
ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกธุรกรรมทางการเงิน
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่
นโยบายการใช้คุกกี้
